วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ยาย่า




ญาญ่า อุรัสยา ลัดฟ้าไปปารีส เยี่ยมครอบครัวรับปีใหม่




ญาญ่า อุรัสยา ลัดฟ้าไปปารีส เยี่ยมครอบครัวรับปีใหม่


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram urassayas

               ยังคงคอนเซ็ปต์ลูกสาวที่น่ารักเหมือนเคย สำหรับ ญาญ่า อุรัสยา ที่ใช้เวลาว่างช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ พาคุณแม่บินลัดฟ้าไปฉลองทั้งเทศกาลปีใหม่และคริสต์มาส ที่ต่างประเทศ แต่ครั้งนี้ ไม่ใช่การไปต่างประเทศธรรมดา เพราะญาญ่า ถือโอกาสไปเยี่ยมครอบครัว พร้อมกับเที่ยวเมืองสุดโรแมนติกอย่าง ปารีส อีกด้วย

               ส่วนกิจกรรมที่สาวญาญ่าทำที่ปารีสนั้น ก็มีทั้งไปเยี่ยมโบสถ์นอตเตอร์ดัม โบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก สไตล์เฟรนช์ โกธิค ใจกลางกรุงปารีส และถือเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย นอกจากนี้ ญาญ่า ยังพาน้องชายที่น่ารัก ไปเล่นสกีสนุก ๆ ถ่ายรูปกับต้นคริสต์มาส และฉลองคริสต์มาสด้วยกันในบรรยากาศอบอุ่นของครอบครัว ดูแล้วน่ารักสุด ๆ ไปเลยจ้า


ญาญ่า อุรัสยา ลัดฟ้าไปปารีส เยี่ยมครอบครัวรับปีใหม่

ญาญ่า อุรัสยา ลัดฟ้าไปปารีส เยี่ยมครอบครัวรับปีใหม่

ญาญ่า อุรัสยา ลัดฟ้าไปปารีส เยี่ยมครอบครัวรับปีใหม่

ญาญ่า อุรัสยา ลัดฟ้าไปปารีส เยี่ยมครอบครัวรับปีใหม่

ญาญ่า อุรัสยา ลัดฟ้าไปปารีส เยี่ยมครอบครัวรับปีใหม่

ญาญ่า อุรัสยา ลัดฟ้าไปปารีส เยี่ยมครอบครัวรับปีใหม่

ญาญ่า อุรัสยา ลัดฟ้าไปปารีส เยี่ยมครอบครัวรับปีใหม่

ญาญ่า อุรัสยา ลัดฟ้าไปปารีส เยี่ยมครอบครัวรับปีใหม่








ดาราก็งิล่ะ

ครอบครัวหมิว ก้อง
คลิกชมภาพต่อไป

ครอบครัวเจมส์จิ

เจมส์-จิรายุ ในวันสบายๆกับครอบครัว
 
ณ ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักหนุ่มคนนี้ ซุปตาร์ สายฟ้าแลบ เจมส์-จิรายุ ที่ดังกระฉ่อนเพียงแค่เล่นละครเพียงเรื่องแรกเท่านั้น ก็คือเรื่อง "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ"

เจมส์-จิรายุ เป็นหนุ่มที่ฮอต รักครอบครัว เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงในวงการบันเทิง เจ้าตัวยกให้ครอบครัวหมด และตอนนี้ก็ทุ่มเวลาให้กับการเรียน การแสดงอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะได้ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง มีความตั้งใจและกตัญญูขนาดนี้ รับรองเป็น "ซุปตาร์" ค้างฟ้า ไปอยู่ในใจหลายๆคนแน่นอน

เจมส์-จิรายุ และครอบครัว
เจมส์-จิรายุ และครอบครัว
เจมส์-จิรายุ กับพีีจิ๊บ (หมอจิ๊บพี่สาว)
เจมส์-จิรายุ กับพีีจิ๊บ (หมอจิ๊บพี่สาว)
เจมส์-จิรายุ
เจมส์-จิรายุ
เจมส์-จิรายุ
เจมส์-จิรายุ
เจมส์-จิรายุ
เจมส์-จิรายุ
เจมส์-จิรายุ
เจมส์-จิรายุ
เจมส์-จิรายุ
เจมส์-จิรายุ
เจมส์-จิรายุ
เจมส์-จิรายุ
เจมส์-จิรายุ
เจมส์-จิรายุ

ครอบครัวดารา

สุขสันต์วัน ครอบครัว แอบดู ครอบครัวดารา พร้อมหน้า กับ ทายาทตัวน้อย

ครอบครัวดาราไทย เป้ย - ป็อป และ น้องโปรด
วันอาทิตย์อย่างนี้ ใครๆ ก็เลือกใช้เวลาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นครอบครัวอยู่แล้ว ก็มันเป็นเวลาสุขสันต์ที่เราจะได้เติมพลังให้กับชีวิต ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลองมาแอบดู ครอบครัวดารา เค้าอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันบ้างซิ ว่าแก๊งค์ดาราพ่อแม่ลูกเขาจะชักภาพครอบครัวกันออกมาน่ารักน่าชังกันขนาดไหน แหม…มันช่างอบอุ่นจริงๆ บ่องตง !!!

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ธัญญาเรศ เองตระกูล นามสกุลเดิมก่อนสมรส รามณรงค์ ชื่อเล่น ธัญญ่า เกิดวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519 เธอเกิดที่อินเดียน่าประเทศสหรัฐอเมริกา บิดาคือสุรพันธ์ รามณรงค์ มารดาคือ Jacklin ซึ่งเป็นชาวอเมริกันพื้นเพครอบครัวของคุณพ่อ คือคุณปู่ของคุณธัญญ่านั้นเป็นชาวปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ธัญญ่าเป็นลูกสาวคนกลาง ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 3 คน โดยพี่ชายคือ แดนนี่ และน้องสาวคือ มัยร่า ซึ่งธัญญาเรศมีผู้จัดการส่วนตัว คือ สมเกียรติ คุณานิธิพงศ์[1],มีหลานสาวคืออริต์ตา รามณรงค์
ธัญญาเรศ เองตระกูล
Tanyares Ramnarong2.jpg
ชื่อเกิดธัญญาเรศ รามณรงค์
ชื่อเล่นธัญญ่า
เกิด26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519(36 ปี)
Flag of the United States สหรัฐอเมริกา
คู่สมรสร.ท. สัณชัย เองตระกูล (เป๊ก)
อาชีพนักแสดง นางแบบ พิธีกร
ผลงานเด่นสายน้ำผึ้ง จากละครเรื่องสามีตีตรา (2544)
ช่อชมพู จากละครเรื่อง บ่วงเล่ห์ เสน่หา (2546)
เจ้าสีเกด จากละครเรื่อง สาปภูษา (2552)
นพนภา จากละครเรื่อง แรงเงา (2555)
รางวัลโทรทัศน์ทองคำ

พ.ศ. 2555 - นักแสดงสนับสนุนหญิงดีเด่น จากละครเรื่อง แรงเงา
รางวัลเมขลา

พ.ศ. 2555 - ดาราสมทบหญิงเมขลามหานิยมแห่งปี จากละครเรื่อง แรงเงา (เข้าชิง)

ครอบครัวของ คุณ สุพรรณษา


เดอะ มูฟวี่ เฮาส์ เบด แอนด์ เบรคฟัสต์   (The Movie House Bed & Breakfast)   รีสอร์ทของนางเอกยอดนิยม เมื่อสมัยคุณแม่ยังสาว คุณ สุพรรณษา นอกจากไร่องุ่น ซิลเวอร์เลค หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ามีรีสอร์ทด้วย เดอะมูฟวี่เฮาส์ น่าจะเป็นที่ถูกใจของแฟนคลับคุณสุพรรณษา ตัวรีสอร์ทติดกับเขาชีจรรย์ มองเห็น วิวไร่องุ่น บรรยากาศสุดเลิศ อีกทั้งธีมของรีสอร์ทจะนำชื่อหนังของแต่ละเรื่องที่คุณสุพรรษาเคยเล่นไว้ในอดีตมาเป็นชื่อห้องและตกแต่งตามสไตล์ของหนังเรื่องนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น ห้องสามใบเถา รอยลิขิต ฝนใต้ เอาใจแฟนคลับกันสุดๆ

ครอบครัวดารา

คาบาล เดอ ปลาจ (Cabine de Plage Beach Cabin)  รีสอร์ทชื่่อเก๋ๆของ คุณ ทอป ดารณีนุช กับ ผีอีเม้ย เอ้ย คุณชุดาภา ตัวรีสอร์ทอยู่แถวพัทยา-สัตหีบ อาจจะงงว่าตกลง พัทยาหรือสัตหีบ เอาเป็นว่าทางเข้ารีสอร์ท อยู่ตรงข้ามสวนนงนุชค่ะ เป็นรีสอร์ทที่ไม่สวย (ไม่สวยละจะแนะนำทำไม) แต่อยากจะบอกว่าเก๋มากๆ เลยล่ะค่ะ การตกแต่งด้วยของหลายๆอย่างทำให้บ้านธรรมดาๆ ดูลงตัวได้อย่างน่ารักซะงั้น ที่นี่จะออกส่วนตัวหน่อย ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวเก็บ คาบาลเดอปลาจ ไว้พิจารณาอีกที่นะคะ

ครอบครัวดารา ตุ่ม ชลิต – น็อต วรฤทธิ์ – แนน ชลิตา เฟื่องอารมณ์

ครอบครัว ดารา นักแสดง ชลิต น็อต วรฤทธิ์ แนน ชลิตา เฟื่องอารมณ์
ตุ่ม ชลิต – น็อต วรฤทธิ์ – แนน ชลิตา เฟื่องอารมณ์นักแสดงคุณพ่อ และลูกทั้งสอง ที่เรายังเห็นฝีมือของพวกเค้าปรากฏอยู่ในจอ ไม่หายหน้าหายตาไปไหน

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แด่...คนรักครอบครัว


แด่...คนรักครอบครัว

มีคำกล่าวว่า ความรักสร้างครอบครัว

ความรักงอกงามขึ้นในใจก่อน แล้วจึงเติบโต แผ่กิ่งก้านสาขา ผลิดอกออกผลเป็นครอบครัว

หากดูผิวเผินแล้ว ลำพังความรักเพียงอย่างเดียว อาจดูเหมือนจะเพียงพอทำให้ครอบครัวมั่นคงได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความรักอย่างเดียวไม่พอ เพราะความรักมีทั้งช่วงเวลาผลิบานและเหี่ยวแห้งลงไป ถ้าหากวันใดความรักเหี่ยวแห้งลง ครอบครัวมิพ้นต้องยืนต้นตายตามไปด้วยหรือ

ความรักเป็นเหมือนเมล็ดพันธุ์เริ่มต้นของครอบครัว แต่ความยืนต้นของครอบครัวนั้น มิได้อาศัยเพียงความรัก จะต้องอาศัยน้ำ แสงแดด ปุ๋ย ที่เป็นแร่ธาตุหลักและพลังงานชีวิตให้ความรักนั้นยืนต้นเป็นครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุขได้

ธาตุอาหารหลักและพลังงานชีวิตนี่แหละ เป็นสิ่งที่คนมีความรักจำเป็นต้องศึกษาให้รู้ว่าคืออะไร แล้วพยายามสะสมไว้เป็นเสบียงให้แก่ชีวิตคู่มากที่สุด หากแม้วันใดความรักอาจเหี่ยวแห้งลงไป แต่หัวใจของครอบครัวก็ยังคงเต้นต่อไปได้ ความรักนั้นก็จะยังคงมีโอกาสฟื้นคืนมาใหม่ได้เหมือนอย่างที่เคยรักกัน

ถ้อยคำต่างๆ ที่เอ่ยอ้างมาทั้งหมดนี้ เพียงต้องการกระตุ้นเตือนให้ได้คิดว่า วันนี้เราเตรียมพร้อมแค่ไหนกับการดูแลครอบครัวให้ดีที่สุด

คำว่า “ เตรียมพร้อม ” นั้นหมายถึง การได้ศึกษาค้นคว้าความรู้และปรับนิสัยใจคอให้พร้อมต่อการรับผิดชอบเรื่องต่อไปนี้มาล่วงหน้าอย่างดีแล้ว เริ่มตั้งแต่ ทำอย่างไรรากฐานของครอบครัวจึงมั่นคง เลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นคนดี มีวิธีอย่างไรจะสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในบ้าน ทำอย่างไรคนในบ้านจะไม่ติดอบายมุข คำสอนใดที่จะชี้ให้ลูกรู้จักคุณค่าของชีวิตที่ถูกต้อง และในยามบั้นปลายชีวิตจะวางต้นอย่างไรให้เป็นที่รักเคารพของลูกหลานในครอบครัว
คำถามเหล่านี้ คือชีวิตจริงที่จะต้องเผชิญต่อไปข้างหน้า และการเตรียมพร้อมของคุณ คือคำตอบว่า คุณรักคนที่ฝากชีวิตไว้ด้วยกันแค่ไหน

.....ขอขอบคุณหนังสือครอบครัวอบอุ่น ที่ทำให้ครอบครัวหลายๆครอบครัวอบอวลไปด้วยความรัก.....

ยอมรับคุณค่าในตนเองและผู้อื่น


ยอมรับคุณค่าในตนเองและผู้อื่น
คุณค่าของตัวเอง

       นับจากนี้ออกไปอีกเพียงไม่กี่วันก็จะเข้าสู่วันที่หลายครอบครัว ต้องพบกับความสุขในวันขึ้นปีใหม่ไทย ซึ่งเชื่อว่า สมาชิกแต่ละคน ย่อมต้องมีแผนที่จะเปลี่ยนตัวเอง เพื่อรับกับความสุขตลอดช่วงปีเสือกันไม่มากก็น้อย และแน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ทุกคนปรารถนาคือ อยากมีชีวิตรัก และครอบครัวที่มีสุขอย่างยั่งยืน
      
       เพื่อสร้างสุขให้ชีวิตรัก-ครอบครัวอย่างยั่งยืนนั้นก่อนอื่นต้องรู้จักกับคำว่าความสุขกันก่อนกับเรื่องนี้'นพ.ไกรสิทธิ์ นฤขัตพิชัยจิตแพทย์โรงพยาบาลมนารมย์ บอกว่า ความสุขมี 2 ประเภท คือ ความสุขทางกาย และทางใจ โดยความสุขทางกาย ส่วนใหญ่จะเป็นการเสพสุขเพื่อตอบสนองความต้องการทางกาย และทางประสาทสัมผัสต่างๆ ซึ่งเป็นความสุขส่วนบุคคล เกิดขึ้นได้ไม่นาน เมื่อไม่มีสิ่งเร้าเป็นตัวกระตุ้น เช่น การลิ้มรสอาหาร ดูหนัง ฟังเพลง หรือการมีเพศสัมพันธ์
      
       ส่วนความสุขทางใจ เช่น การมีทรัพย์สมบัติ มีอำนาจ มีชื่อเสียง มีหน้ามีตาในสังคม ส่วนใหญ่เป็นความสุขที่ต้องพึ่งพาอาศัยปัจจัยภายนอกจึงจะมีความสุขได้ แต่เนื่องจากปัจจัยภายนอกเป็นสิ่งที่ไม่มีความแน่นอน จึงหาความยั่งยืนได้ยาก
      
       ดังนั้น ความสุขทางใจที่ยั่งยืน จิตแพทย์แนะว่า ควรจะเป็นความสุขจากภายในที่ไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกมากนัก แต่เป็นความรู้สึกมีคุณค่า มั่นใจในคุณค่าของตนเองจากภายใน ทำให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข เหมือนกับคนที่พิการไม่มีแขน ไม่มีขา หน้าตาไม่ได้สวย แต่ก็ไม่ได้คิดอยากตาย เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองมีค่า สามารถทำมาหากินเลี้ยงตัวเองด้วยการพึ่งตนเอง โดยใช้ปากคาบพู่กันวาดรูปขาย โดยการสร้างสรรค์ และทำประโยชน์ให้แก่ตนเอง และผู้อื่นได้
      
       ต่างกับผู้มีความมั่นใจในคุณค่าตัวเองน้อย บางรายนอกจากพยายามตะเกียกตะกายเรื่องวัตถุแล้ว ยังใช้วิธีที่จะทำให้ตัวเองอยู่ได้ หรือรู้สึกมั่นใจขึ้นโดยวิธีการมองคนอื่นว่า ก็ไม่ได้ดีเด่นกว่าตัวเองเท่าไร ซึ่งคอยจ้องมองหาข้อเสียของคนอื่นมากกว่าจะมองหาข้อดี เพื่อความสบายใจของตัวเองว่า ฉันก็โอเค ไม่ได้แย่เท่าไหร่’ วิธีการแก้ปัญหาแบบนี้ เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่สร้างสรรค์ และมักจะสร้างปัญหาในบ้าน หรือนอกบ้านในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลได้ง่าย เช่น การขัดแย้ง หรือทะเลาะเบาะแว้ง
      
       อย่างไรก็ดีการเห็นคุณค่าในตนเองรู้สึกดีต่อตนเองไม่ใช่เรื่องง่ายค่อนข้างซับซ้อนพอสมควร เนื่องจากคนหนึ่งคนมีบทบาทหลายด้านสวมหมวกหลายใบ และต้องการที่จะให้ดีไปทุกๆ ด้าน ตั้งแต่เป็นลูกที่ดี พี่ที่ดี น้องที่ดี พ่อที่ดี แม่ที่ดี ลุงป้าน้าอา ปู่ย่าตายายที่ดี หรือเป็นหลานที่ดี

       แต่ด้วยทรัพยากรที่มีจำกัดในแต่ละคนโดยเฉพาะเรื่องเวลา การจะทำให้ดีเต็มร้อยในทุกบทบาทโดยไม่มีข้อตำหนิหรือบกพร่องเลยแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ดังนั้นแต่ละคนอาจจะต้องมากำหนดเป้าหมายของตัวเองเป็นเป้าหมายที่เป็นจริง มีความเป็นไปได้ จัดลำดับความสำคัญ และจัดสรรเวลาให้เหมาะสมเพื่อตัวเองจะได้ทำได้สำเร็จตามเป้าในระดับที่คิดไว้ และไม่รู้สึกผิด ไม่รู้สึกบกพร่อง หรือเป็นคนไม่ดี
      
       กระนั้น ความสามารถมองเห็นคุณค่าในตนเอง และยอมรับตนเองจะมาก หรือน้อย จิตแพทย์บอกว่า ขึ้นอยู่กับครอบครัว คนที่เติบโตมาในบรรยากาศครอบครัวที่ดี ซึ่งในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงครอบครัวที่ฐานะดี แต่หมายถึงครอบครัวที่บรรยากาศอบอุ่นเข้าใจกัน เอาใจใส่ความรู้สึกของสมาชิกในครอบครัว ให้เกียรติกันให้ความสำคัญของกันและกัน ทำให้เกิดความรู้สึกดีต่อตนเอง มั่นใจ (ในระดับจิตใต้สำนึก) ว่า ฉันมีค่า ฉันใช้ได้ ฉันมีข้อดี ฉันมั่นใจว่าฉันสามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตของฉัน” ก็ถือว่าโชคดี มีโอกาสมีความสุขในชีวิตได้ดี
      
       เมื่อ มองเห็น และยอมรับคุณค่าในตนเองได้ก็ไม่ต้องคอยเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา สามารถมองโลกแง่บวกได้ง่าย โกรธยาก แค้นยาก ให้อภัยง่าย มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แบ่งปันได้ง่าย จึงมีความสุขในชีวิตทั้งชีวิตรัก และชีวิตครอบครัวได้ง่าย
      
       แต่สำหรับคนที่ครอบครัวเตรียมต้นทุนด้านจิตใจมาให้น้อย ก็มีโอกาสเกิดปัญหามากกว่า แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะความสามารถในการมองเห็นค่า และยอมรับตนเองเป็นสิ่งที่พัฒนาได้ แต่การพัฒนาตอนโต อาจจะยากกว่าช่วงวัยเด็ก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำไม่ได้ถ้าพยายาม และเมื่อทำได้สำเร็จก็ถือว่าคุ้ม เพราะจะช่วยให้ชีวิตสมาชิกในบ้านคนนั้นทุกข์น้อยลง มีความสุขง่ายขึ้น เกิดเป็นความดีส่งผลถึงคนรอบข้าง เพราะคนทุกคนเป็นสิ่งแวดล้อมของกันและกัน คนที่มีความสุขก็จะส่งผลให้คนที่อยู่รอบข้างมีความสุข อารมณ์ดีนั่นเอง
      
       ดังนั้นใครที่อยากมีความสุขที่ยั่งยืน จิตแพทย์แนะนำว่า ควรที่จะเริ่มจากการหาเวลาในแต่ละวัน แล้วแต่สะดวกสัก 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง ให้เวลากับตนเองในการฝึกผ่อนคลาย ทำสมาธิ โยคะ หรืออะไรก็แล้วเพื่อเป็นการพักสมองผ่อนคลาย และฝึกสติทบทวนพิจารณาตนเองพิจารณาอารมณ์และวิธีคิดของตนเอง มีจุดใดที่สมควรปรับปรุงหรือไม่ ถ้าปฏิบัติ และศึกษาหาความรู้เพื่อเติมเป็นมุมมองชีวิตให้กว้างขึ้นเป็นประจำ ก็คงจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี สามารถช่วยให้เกิดความสุขทางใจที่เกิดจากภายในที่มีความยั่งยืนได้ไม่ยากนัก