รักครอบครัว

วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

เร่งปั๊มเงินแต่งงาน สร้างครอบครัว "ยุ้ย จีรนันท์" ฝัน ใช้ชีวิตคู่ "ธันญ์"

วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 12:00:00 น.

หลังจากคบหากันมาได้สักพักใหญ่ สำหรับคู่รักค่ายหลายสี "ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม"และ "ธันญ์ ธนากร" หลายคนเลยจับตามองว่าเมื่อไรห่หนา คู่นี้จะมีข่าวดีกับเขาบ้าง เพราะเห็นกี่ครั้งก็ดูหวานและเอาใจใส่กันดีมาตลอด ซึ่งพอเอาคำถามนี้ไปถามกับนางเอกสาว เจ้าตัวก็เลยเล่า (ยาวๆ) ให้ฟังอย่างนี้

"วันนี้ความรักแฮปปี้มีความสุขค่ะ มีความรู้สึกว่าพอเราเหนื่อยแล้วมีกำลังใจดีๆ ก็ทำให้เรามีแรงทำอะไรต่อไปหลายๆ อย่าง ส่วนเรื่องข่าวดี คงอีกสักพัก ยุ้ยยังไม่รู้อนาคตค่ะ เราอยากทำทุกอย่างให้มันดี ไหนจะครอบครัวเรา ไหนจะงานแสดง ธันญ์เองก็อยากสร้างเนื้อสร้างตัว เขาก็เหนื่อยมากเหมือนกันค่ะ"

เมื่อถามว่า ทางครอบครัว ยุ้ย รู้สึกอย่างไรกับแฟนคนนี้ เจ้าตัวก็ว่า ทุกคนรู้สึกดี และฝ่ายชายก็เข้ากับที่บ้านเธอได้เป็นอย่างดีด้วย

"คุณแม่โอเคค่ะ ทุกคนในครอบครัวยุ้ยรักเขา และบ้านของธันญ์ก็โอเคกับยุ้ย พ่อแม่ธันญ์น่ารักมากๆ ค่ะ ส่วนเรื่องแต่งงาน คุณแม่ก็ไม่ได้เร่งถึงขนาดนั้น เหมือนคุณแม่ก็รู้ว่าเราทำงานหนักทั้งคู่ ไม่อยากบีบคั้นหรือกดดันอะไร แล้วแต่เรา ตอนนี้ยุ้ยปล่อยให้เพื่อนๆ แต่งงานกันไปก่อนค่ะ (หัวเราะ) เราไม่รีบค่ะ กับธันญ์ ก็พูดคุยกันเรื่องนี้ตลอดค่ะ เราเองอายุก็ไม่น้อยแล้วแเละธันญ์เป็นผู้ชายต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว เขาก็บอกว่าทุกวันนี้เขาจะพยายามทำให้มันดีเพื่อเราและเพื่ออนาคตค่ะ"

ลองแย๊บถามถึงความคาดหวังกับความรักครั้งนี้ เพราะเห็นว่าทุกอย่างดีไปเสียหมด ยุ้ย ได้เผื่อใจไว้บ้างไหม

"ยุ้ยเป็นคนที่เวลารักใครจริงจังและคาดหวังอยากให้มันดีที่สุด แต่อนาคตเราไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะยุ้ยเคยผ่านประสบการณ์ความรักที่คาดหวังอะไรมามากๆ แล้วต้องผิดหวัง เราก็แอบกลัวนะ แต่คิดว่าของแบบนี้แล้วแต่บุญแต่กรรม เราทำดีที่สุดแล้ว ถ้าวันหนึ่งไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ แต่ถ้าวันหนึ่งเราทำบุญด้วยกันมาดีเราก็ได้อยู่ด้วยกัน ถามว่าเผื่อใจไหม ก็เผื่ออยู่แล้ว เพราะยุ้ยเคยเจอและผ่านอะไรมาเยอะ แต่มันก็ดีทำให้เราเข้มแข็งขึ้น โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เหมือนเราเคยรักมากๆ และวันหนึ่งต้องมาผิดหวัง มันก็อยู่ได้ แต่ถามว่าอยากให้เกิดไหม ก็ไม่อยากให้เกิด แต่ถ้ามันเกิดเราก็ต้องอยู่ให้ได้"

ยุ้ย ยังบอกอีกว่า คุณแม่ของตนจะแอบถามอยู่บ่อยๆ อย่าง เรื่องซื้อที่ดินร่วมกับฝ่ายชายว่า ถ้าหากวันหนึ่งไม่ได้อยู่ด้วยกัน ต้องเลิกกัน ตนจะอยู่ได้ไหม ซึ่ง ยุ้ย บอกว่า

"คุณแม่ก็จะถามยุ้ยว่ายุ้ยกับธันญ์ซื้อที่ด้วยกัน ตั้งใจจะทำโน่นทำนี่ แล้วถ้าวันหนึ่งธันญ์ไม่ได้อยู่กับยุ้ยจริงๆ เราจะอยู่ได้หรือเปล่า แม่จะแอบถาม ซึ่งยุ้ยก็ไม่คิดว่าแม่จะถามเราแบบนี้ เพราะแม่เคยเห็นครั้งที่แล้วที่เราซื้อบ้านกับปิ๊ด บอดี้แสลม คิดว่าแม่ก็คงคิด ยุ้ยเองก็คิด แต่ยุ้ยมีความรู้สึกว่าเราผ่านจุดที่แย่มาแล้ว เราเข้มแข็งประมาณหนึ่ง แต่ถามว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ เราก็คงเสียใจมากๆ แต่อย่างที่บอกว่าทุกวันนี้เราพยายามทำให้ดีที่สุดและโชคดีที่เราเคยผ่านอะไรมาบ้างแล้วก็มีประสบการณ์ มันก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เราเผื่อใจค่ะ วันหนึ่งเราก็ต้องรักตัวเองให้มากที่สุด ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่แย่จริงๆ ถึงจะเลวร้ายแค่ไหนก็ต้องอยู่ให้ได้ เพราะมีคนที่รักเราอยู่อีกเยอะค่ะ"

ครอบครัวนิชคุณ เชอรีน นิชคุณ ญาณิน หรเวชกุล สวยหล่อกันทั้งบ้าน

มิว นิษฐา” ปล่อยโฮกลางเวที ซึ้งรักพ่อแม่ในงาน “ครอบครัวคือชีวิต”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

18 พฤษภาคม 2556 00:52 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

“มิว นิษฐา” ปล่อยโฮกลางเวที
        ซึ้งรักพ่อแม่ ในงาน  “ครอบครัวคือชีวิต”

         บรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเองแบบ “ครอบครัว” สุดๆ ในงาน “ครอบครัวคือชีวิต” ซึ่งจัดโดยมูลนิธิเด็กโสสะฯ ที่ดูแลเด็กๆ ไร้ที่พึ่งในรูปแบบครอบครัวทดแทนระยะยาว  เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
        โดยงานนี้ได้นางเอกสาวมาแรงอย่าง “น้องมิว - นิษฐา จิรยั่งยืน” ควงคุณแม่ “อังคณา จิรยั่งยืน” ออกงานเป็นครั้งแรก พร้อมครอบครัวหนุ่มติสต์ “ลีโอ พุฒ” และลูกชายสุดหล่อ “น้องคีตะ” และคุณแม่คนแกร่ง “น้อย โพธิ์งาม” มาร่วมแชร์ความคิดเห็นและความสำคัญของครอบครัวเนื่องในวัน ครอบครัวสากล
        โดย “มิว” ได้เผยว่า ตัวตนและความสำเร็จที่ตนเองมีอยู่ทุกวันนี้ ต้องยกความดีให้ครอบครัวทั้งหมด
              “มีอยู่ครั้งหนึ่งสมัยมิวเพิ่งเข้ามหาลัยใหม่ๆ มีคนมาชวนไปถ่ายโฆษณาที่ต่างจังหวัด ซึ่งเราก็เป็นแค่ตัวประกอบน่ะค่ะ  แต่ตอนนั้นเราก็รับปากทีมงานกระชั้นชิด มาบอกคุณพ่อคุณแม่เอาตอนสองทุ่ม แล้วต้องเดินทางตอนตี 5 โกลาหลกันทั้งบ้านค่ะ คุณแม่ก็จะโทรไปลางานจะไปเป็นเพื่อนเรา  คุณพ่อก็โทรไปคุยกับโมเดลลิ่ง น้องก็เป็นห่วง เช้าขึ้นมาฝนก็ตก แม่ก็พามิวกับน้องฝ่าฝนมาส่งจนได้ จำได้ว่าน้ำตาคลอเลยค่ะ คือมันซึ้งขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่า นี่แหละคือความห่วงใยของครอบครัว ของคนที่รักเรามากที่สุด ยอมทำทุกอย่างเพื่อสนับสนุนในสิ่งที่เราเลือกเดิน”

        หลังจากนั้น น้องมิวก็เริ่มปล่อยโฮกลางเวลาที เมื่อ “ครูเงาะ” รสสุคนธ์ กองเกตุ พิธีกรในงาน ได้ให้เธอฝากข้อคิดถึงน้องๆ โสสะฯ
        “ได้มาเจอน้องๆ ของมูลนิธิโสสะฯ มิวก็อยากจะบอกว่า ชีวิตก็มีบางครั้งที่เราเลือกไม่ได้ แต่การที่เรามีคนที่รักและเข้าใจเรา รับฟังทั้งเรื่องทุกข์ ให้คำแนะนำ และพร้อมที่จะให้อภัย เป็นกำลังใจหากเราทำผิดพลาด เหมือนๆ ที่น้องโสสะฯ มีคุณแม่โสสะที่ดูแลอยู่  นี่ก็คือความรู้สึกที่มิวได้รับจากครอบครัวค่ะ ”

        ส่วนหนุ่ม “ลีโอ พุฒ” ได้ให้แง่คิดที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวสมัยใหม่ไว้ว่า
        “หลังจากได้ยินเรื่องของคุณแม่โสสะที่เลี้ยงดูน้องๆ บ้านละ 10 กว่าคนทั้งๆ ที่ไม่ใช่ลูกทางสายเลือดของตนเอง มันก็ยิ่งตอกย้ำความคิดของผมที่ว่า ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ มันไม่ใช่ที่เราเคยสร้างภาพไว้ว่า ต้องมีพ่อ แม่ ลูก หรือปู่ ย่า อยู่กันครบ แต่มันอยู่ที่ว่าทุกคนในครอบครัวนั้น แม้จะมีแค่แม่กับลูก หรือพ่อกับลูก ได้ให้ความรัก สร้างความผูกพันและเอาใจใส่กันและกันขนาดไหน การที่เราแบ่งปันความรักให้คนใดคนหนึ่ง มันก็จะส่งผ่านต่อไปยังอีกหลายๆ คนได้เช่นกัน”

        ด้านคุณแม่สู้ชีวิต “น้อย โพธิ์งาม” ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เช่นกัน ก่อนจะฝากข้อคิดดีๆ จากมุมมองของคนเป็นแม่ไว้อย่างน่าซาบซึ้ง
        “อยากเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกๆ คนนะคะ ในทุกๆ ความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่ เหมือนน้องๆ บ้านโสสะ ที่ได้คุณแม่ทดแทนที่ทำหน้าที่เหมือนแม่แท้ๆ ทุกอย่าง แล้วจากที่ดูวันนี้แม่รู้เลยว่าหนูมีความสุขต่างจากรูปแบบของเด็กกำพร้าที่พวกเราเคยคิดภาพกันเอาไว้ เพราะฉะนั้นความรักที่มอบให้กัน ไม่ว่าจากใครสู่ใครมันก็สามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะความรักที่เรามีในครอบครัว นั่นเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดที่จะสร้างคนคนหนึ่งให้เป็นคนดีได้”